Key Takeaways
การออกแบบนามบัตรให้สวยงาม มีเอกลักษณ์ และสื่อถึงตัวแบรนด์ได้ดี เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้าหรือผู้ที่ได้รับนามบัตรไป จดจำธุรกิจของเราได้ดียิ่งขึ้น แต่นอกจากรูปแบบแล้ว กระดาษทำนามบัตรก็เป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม กระดาษทำนามบัตรนั้นมีให้เลือกหลายแบบทั้งกระดาษธรรมดา กระดาษเคลือบ PVC กระดาษแบบมีผิวสัมผัส ไปจนถึงกระดาษโปร่งแสง หากใส่ใจในการเลือกใช้ ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเพิ่มความโดดเด่นให้กับธุรกิจได้อีกด้วย
กระดาษทำนามบัตร เป็นส่วนประกอบหนึ่งของการทำนามบัตรเพื่อใช้ในธุรกิจที่หลายคนอาจมองข้ามไป เพราะคิดว่าแค่ออกแบบให้โดดเด่นก็เพียงพอแล้ว แต่ที่จริงการเลือกกระดาษเป็นจุดเล็ก ๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจของผู้ประกอบการ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้มากยิ่งขึ้นได้ด้วย วันนี้ไปดูกันว่ากระดาษทำนามบัตรมีกี่แบบ และประโยชน์ของการเลือกกระดาษให้เหมาะสมจะมีอะไรกันบ้าง
ภาพ: ตัวอย่างนามบัตร
กระดาษทำนามบัตรนั้นมีให้เลือกหลายแบบ ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และงบประมาณที่จะใช้ ซึ่งควรจะเลือกให้สอดคล้องกัน เพื่อให้นามบัตรที่ได้ออกมาเป็นตัวแทนของธุรกิจ ช่วยสร้างเอกลักษณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้ที่ได้รับไป โดยกระดาษทำนามบัตรที่นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่ มีดังต่อไปนี้
1. กระดาษธรรมดา เป็นกระดาษที่ใช้กันทั่วไป โดยส่วนใหญ่จะเลือกใช้ที่ความหนา 270 แกรมขึ้นไป อาจเป็น 300 แกรม หรือ 350 แกรมก็ได้ โดยยิ่งมีความหนามากก็จะทนทานมากยิ่งขึ้น โดยกระดาษธรรมดาจะมีต้นทุนต่ำกว่ากระดาษแบบอื่น ๆ
2. กระดาษเคลือบ PVC เป็นการนำกระดาษไปเคลือบด้วยพลาสติก PVC โดยใช้ความร้อนหรือกาว ทำให้กระดาษประเภทนี้มีคุณสมบัติทนความชื้นและน้ำมากยิ่งขึ้น แม้เก็บนานหรือโดนน้ำก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเปื่อยยุ่ยหรือฉีกขาด โดยเลือกได้ทั้งฟิล์มเงาหรือฟิล์มด้าน
3. กระดาษมีผิวสัมผัส เป็นกระดาษทำนามบัตรที่มีผิวหยาบ ขรุขระ เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกถึงผิวสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ หรืออาจะเป็นกระดาษที่มีผิวสัมผัสจากการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน ปั๊มฟอยล์ เป็นรูปโลโก้ของแบรนด์หรือบริษัท ซึ่งจะช่วยให้นามบัตรของธุรกิจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น
4. กระดาษพิเศษ เป็นกระดาษทำนามบัตรที่มีสีสันหรือลักษณะพิเศษอื่น ๆ เช่น กระดาษมุกขาว ซึ่งมีประกายมุกสีขาวกระจายอยู่บนกระดาษ กระดาษมุกสีทองที่มีประกายสีทอง นอกจากนี้อาจเป็นกระดาษที่มีกลิ่นหอมก็ได้เช่นกัน5. กระดาษโปร่งใส เป็นกระดาษทำนามบัตรที่ผลิตจากพลาสติก PVC จึงมีลักษณะโปร่งใสเห็นทะลุผ่านได้ทั้งสองฝั่ง ซึ่งจะช่วยให้นามบัตรดูโดดเด่นไม่เหมือนใครได้ดีเลยทีเดียว
ต่อไปเราไปดูกันต่อว่าการเลือกกระดาษทำนามบัตรให้เหมาะสม ให้เข้ากับดีไซน์ที่จะพิมพ์ลงบนกระดาษ จะส่งผลดีต่อธุรกิจได้อย่างไรบ้าง?
ภาพ: นามบัตรสำหรับทำธุรกิจ
นามบัตรที่ออกมาสอดคล้องกับแบรนด์หรือบริษัท พิมพ์ลงบนกระดาษทำนามบัตรที่มีคุณภาพ แข็งแรง ไม่เปื่อยยุ่ยหรือฉีกขาด หรืออาจมีจุดเด่นที่ช่วยให้จดจำได้ง่าย เช่น การโลโก้ที่โดดเด่น ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจในการทำธุรกิจในทุกจุด ไม่เว้นแม้แต่จุดเล็ก ๆ อย่างนามบัตร ซึ่งช่วยให้ผู้ที่ได้รับนามบัตรไปจดจำแบรนด์ได้อีกด้วย
ภาพ: ตัวอย่างนามบัตรธุรกิจ
การเลือกใช้กระดาษทำนามบัตรที่มีจุดเด่นอย่างผิวสัมผัสไม่เรียบ มีสีสันสดใส เป็นกระดาษประกายมุกสีต่าง ๆ หรือมีกลิ่นหอม จะช่วยสร้างจุดเด่นให้กับบริษัทได้ เมื่อนำมาประกอบกับรูปแบบที่แสดงตัวตนของแบรนด์แล้ว ก็จะยิ่งทำให้นามบัตรใบเล็ก ๆ ดูน่าสนใจขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ภาพ: ตัวอย่างนามบัตรสีสันสดใส
การเลือกใช้กระดาษทำนามบัตรที่ไม่เหมือนใคร เช่น กระดาษโปร่งใส ออกแบบให้ทันสมัย ต่างจากนามบัตรแบบเดิม ๆ จะทำให้นามบัตรกลายเป็นตัวแทนบ่งบอกตัวตนของแบรนด์ได้อย่างดี โดยเฉพาะแบรนด์รุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบ และเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างจากในอดีต
แน่นอนว่านามบัตรที่ดีนั้นไม่ได้มีแค่การเลือกใช้กระดาษทำนามบัตร ที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับการออกแบบและใส่ข้อมูลลงบนนามบัตรให้ครบถ้วนด้วย และเพื่อให้ได้นามบัตรที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด ควรเลือกใช้บริการนักออกแบบและผู้ผลิตที่มีประสบการณ์มาเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา เพื่อให้นามบัตรเป็นตัวแทนบริษัทและสร้างความประทับใจให้กับผู้ได้รับต่อ
ชลบุรีอาร์ตมีเดีย พร้อมให้บริการออกแบบและผลิตนามบัตรที่มีคุณภาพ รวมถึงผลิตสื่อโฆษณาทุกชนิด พร้อมบริการออกแบบและตกแต่งภายใน โดยทางบริษัทให้ความสำคัญกับการผลิตผลงานที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ พร้อมด้วยบริการที่รวดเร็วและตรงเวลา เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจของลูกค้าทุกท่าน
