Key Takeaways
ป้ายไฟ LED เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของป้ายที่ใช้สำหรับธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายหน้าร้าน ป้ายตัวอักษร ป้ายโลโก้ก็ใช้ได้ท้งนั้น เพราะนอกจากจะเลือกออกแบบได้ตามใจแล้ว ก็ยังใช้งานได้ยาวนาน ประหยัดค่าบำรุงรักษาได้ดีเลยทีเดียว
จะเลือกทำป้าย LED อย่าลืมดูรูปแบบการใช้งาน กลุ่มเป้าหมาย บริเวณที่จะติดตั้ง ไปจนถึงความละเอียดและลักษณะของเม็ดไฟ ที่จะช่วยให้ออกแบบป้ายแล้วตอบโจทย์ ดึงดูดคนที่ได้พบเห็น และคุ้มค่าการลงทุนมากที่สุด
ทุกวันนี้มองไปทางไหนจะตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน ก็เห็นป้ายไฟตกแต่งหน้าร้าน กันไปหมด ดึงดูดให้เรามองไปที่ร้านนั้น ๆ แบบไม่รู้ตัว สำหรับใครที่วางแผนทำธุรกิจ ควรจะมาทำความรู้จักกับป้ายไฟ LED ป้ายยุคใหม่ที่ทั้งโดดเด่น ออกแบบตามใจชอบ แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย ใครที่อยากรู้จักกับป้ายนี้ให้มากขึ้น ก็ไปดูกันได้เลย!
ป้ายไฟ LED คืออะไร?
ภาพ: ป้ายไฟ LED หน้าร้าน
ป้ายไฟ LED แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นป้ายที่มีหลอดไฟ LED เป็นส่วนที่ให้ความสว่าง โดยหลอดไฟ LED หรือ Light Emitting Diode คือสารกึ่งตัวนำไฟฟ้า ที่เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน จะให้แสงสว่างจ้า ต่อเนื่อง กะพริบน้อยกว่าหลอดไฟประเภทอื่น และยังประหยัดไฟมากขึ้น เพราะใช้กระแสไฟฟ้าน้อยมาก ส่วนตัวหลอดก็ใช้งานได้ยาวนาน ลงทุนครั้งเดียวใช้กันได้นาน ไม่ต้องคอยเปลี่ยนบ่อย ให้เสียค่าบำรุงรักษา
ทุกวันนี้หลอดไฟ LED ก็มีให้เลือกหลายสี โดยสีที่ได้นั้นจะเกิดจากการเคลื่อนที่ของอิเล็คตรอนในสารกึ่งตัวนำสีที่ใส่ลงไปนั่นเอง โดยป้าย LED นั้นทำเป็นป้ายได้หลายแบบ ทั้งรูปทรงสี่เหลี่ยม วงกลม เช่น
ภาพ: ป้ายกล่องไฟ
ป้ายกล่องไฟหรือป้ายไฟหน้าร้าน ไม่ว่าจะเป็นป้ายวงกลม วงรี สี่เหลี่ยม ก็ทำเป็นป้ายกล้องไฟ LED ได้ทั้งนั้น โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้อะคริลิกและไวนิล เป็นวัสดุหลัก
ภาพ: ป้ายตัวอักษร
ป้ายไฟตัวอักษรหรือป้ายไฟโลโก้ อยากได้ป้ายที่แข็งแรง ตัดแต่งเป็นชื่อ ตัวอักษร หรือคำพูด ก็เลือกใช้ป้ายไฟ LED ได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่ทนทานอย่างสแตนเลสหรือซิงค์ แล้วใส่ไฟ LED แล้วปิดหน้าด้วยอะคริลิก
ภาพ: ป้ายนีออนเฟล็ก
ป้ายนีออนเฟล็ก อยากได้ป้ายตัวอักษรดัดงอเป็นชื่อหรือคำพูดไว้ตกแต่งร้านหรือคาเฟ่เก๋ ๆ ควรเลือกป้ายนีออนเฟล็กที่ทำจากไฟ LED นอกจากจะน้ำหนักเบาแล้ว ก็ยังประหยัดไฟกว่าไฟนีออนหลอดแก้วที่ใช้กันในอดีตด้วย
ถ้าอยากจะใช้บริการรับทำป้ายไฟ LED จะต้องดูที่อะไรบ้าง ถึงจะออกแบบมาแล้วใช้งานได้คุ้มค่ากับการลงทุน ไม่ต้องเสียเงินแก้ไขกันภายหลัง ตามไปดูกันต่อได้เลย!
เลือกป้ายไฟ LED ต้องดูที่อะไรบ้าง? ถึงจะคุ้มค่าการลงทุน
1. รูปแบบการใช้งาน ช่วยให้ออกแบบง่ายขึ้น
ภาพ: ป้ายไฟ LED หน้าร้าน
ก่อนอื่นต้องดูก่อนเลยว่าป้าย LED ที่จะสั่งทำมานั้นจะนำไปใช้ทำอะไร จะเป็นป้ายหน้าร้าน ป้ายตัวอักษร หรือจะทำเป็นโลโก้ เป็นชื่อ หรือเป็นข้อความ เพราะช่วยให้ผู้ที่รับทําป้ายไฟ LED ออกแบบได้ง่ายขึ้น เลือกสีสันได้อย่างเหมาะสม ทำให้รายละเอียดของป้ายออกมาครบถ้วน สมบูรณ์ เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด
2. กลุ่มเป้าหมายต้องชัดว่าอยากให้ใครมอง
ภาพ: ป้ายโลโก้ตกแต่งหน้าร้าน
อยากจะติดตั้งป้ายไว้ให้ใครมองเห็นเป็นหลัก อย่าลืมเลือกให้ดี เพราะจะช่วยให้ออกแบบง่ายขึ้น ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้สนใจป้ายและธุรกิจได้มากขึ้นตามไปด้วย สำหรับเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกป้ายไฟ LED ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายก็คือ
คนเดินเท้า ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นคนเดินผ่านไปผ่านมา อยากให้สะดุดตาป้าย LED ที่ติดไว้หน้าร้าน ควรออกแบบให้โดดเด่น มีโลโก้ ชื่อร้าน หรือรายละเอียดอื่น ๆ ชัดเจน โดยอาจจะไม่จำเป็นจะต้องทำใหญ่มากเกินไป แต่เน้นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่าคนสัญจรบนถนน สำหรับป้ายไฟ LED ที่อยากจะให้คนขับขี่พาหนะต่าง ๆ มองเห็น ได้ทัน ก็ควรจะเลือกใช้ป้ายขนาดใหญ่มองเห็นได้จากระยะไกล มีข้อมูลไม่เยอะเกินไป แต่บ่งบอกได้เลยว่าเป็นธุรกิจอะไร เพราะผู้คนที่อยู่บนรถจะมีเวลามองไม่มากนัก หากออกแบบให้เข้าใจง่าย ก็จะสะดุดตามากขึ้นนั่นเอง
3. บริเวณที่จะติดตั้ง อย่าลืมสำรวจให้ดี
ภาพ: ป้ายกล่องไฟ LED ติดตั้งภายนอก
จะติดป้ายภายในหรือว่าภายนอก อย่าลืมเลือกดูให้ดี เพราะความละเอียดของเม็ดไฟในป้ายไฟ LED มีลักษณะความละเอียดของเม็ดไฟขึ้นอยู่กับระยะในการมองเห็น ถ้าเลือกไม่เหมาะก็อาจจะทำให้มองเห็นได้ลำบากกว่าเดิม นอกจากนี้การติดตั้งป้ายต่าง ๆ ก็ยังเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย จึงควรจะศึกษาให้ดีก่อนเลือกทำป้าย LED จะได้ไม่ต้องเสียเวลาปรับปรุง แถมยังเสียเงินเยอะขึ้นโดยใช่เหตุด้วย
4. ความละเอียดของเม็ดไฟ ต้องให้เข้ากับระยะมองเห็น
ภาพ: ความละเอียดของเม็ดไฟ LED
อยากให้ป้ายไฟส่องสว่าง ต้องดูเลือกความละเอียดของเม็ดไฟให้ดี เพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับระยะมาตรฐานที่นิยมใช้กันจะเรียกว่าระยะ P (Pixel Pitch) ซึ่งเป็นระยะห่างของหลอดไฟแต่ละหลอด มีตั้งแต่ P1-P12 ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระยะห่างที่มองเห็นได้นั่นเอง แตถ้าถามถึงระยะที่นิยมใช้กัน จะมีดังนี้
ใช้งานภายใน การใช้งานภายในส่วนใหญ่จะมีระยะมุมมองประมาณ 5 เมตร ทำให้เลือกใช้เม็ดไฟละเอียดระดับ P5 ก็เพียงพอแล้ว โดยส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้ใช้ภายในโดยเฉพาะ ช่วยให้ประหยัดไฟ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นใช้งานภายนอก สำหรับการใช้งานภายนอกจะนิยมใช้ความะเอียดระดับ P10 ที่เหมาะกับมุมมองระยะ 10 เมตรนั่นเอง เมื่อมองได้จากระยะไกลจึงตอบโจทย์การติดตั้งภายนอกเป็นป้ายหน้าร้านที่สร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
5. ลักษณะของเม็ดไฟ เลือกให้เหมาะกับมุมมอง
ภาพ: ลักษณะเม็ดไฟ LED
นอกจากความละเอียดของเม็ดไฟแล้ว อย่าลืมเรื่องลักษณะของเม็ดไฟด้วย ซึ่งทุกวันนี้ก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งที่เป็นเม็ดไฟแบบเดิมที่ใช้กันมานาน และแบบที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเลือกใช้กันได้ตามความต้องการ
แบบ DIP อยากได้เม็ดไฟที่สว่างมาก ควรเลือกเม็ดไฟแบบ DIP ทำป้ายไฟได้เลย เพราะมีลักษณะไฟ 1 สี ต่อ 1 เม็ด แต่มีจุดอ่อนที่เห็นได้แค่ด้านบนและล่าง ซึ่งจะดูแคบกว่าอีกแบบ จึงเหมาะกับป้ายที่ไม่มองทางมุมก้มมุมเงยมากนักแบบ SMD อยากได้เม็ดไฟที่มีหลากสี แถมยังมองเห็นได้รอบด้าน เม็ดไฟแบบ SMD ถือว่าตอบโจทย์ เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่มีสีทั้ง 3 สีเข้าไว้ในเม็ดไฟเม็ดเดียว ถึงจะส่องสว่างได้น้อยกว่าแบบ DIP แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
หาผู้เชี่ยวชาญรับทําป้ายไฟ LED ติดต่อเราได้เลย ชลบุรีอาร์ตมีเดีย
จะเห็นแล้วว่าป้ายไฟ LED เป็นป้ายที่เหมาะมากกับธุรกิจต่าง ๆ เพราะทั้งโดดเด่น จะใช้งานตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็เลือกได้ แถมยังประหยัด เพราะลงทุนครั้งเดียวใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงกันเยอะ แต่ส่วนที่สำคัญเลยคือควรจะเลือกร้านรับทําป้ายไฟ LED ที่มีคุณภาพ เลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน และยิ่งถ้ามีบริการออกแบบด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้ป้ายที่ผลิตขึ้นนั้น ออกมาสวยงาม แถมดึงดูดความสนใจของคนที่ผ่านมาได้อีกเท่าตัว
ชลบุรีอาร์ตมีเดีย พร้อมให้บริการงานออกแบบและรับทำป้ายไฟ LED รวมถึงงานผลิตป้ายและสื่อโฆษณาทุกชนิด โดยทางบริษัทให้ความสำคัญกับการผลิตผลงานที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ พร้อมด้วยบริการที่รวดเร็วและตรงเวลา เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจของลูกค้าทุกท่าน