ตรายางคืออะไร?

ประเภทของตรายาง

1. ตรายางแบบธรรมดา

เป็นรูปแบบด้ามตรายาง การใช้งานจะต้องใช้ร่วมกับตลับหมึก เป็นตรายางแบบที่มีใช้กันอย่างทั่วไปและเป็นรูปแบบมีการใช้งานกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ข้อดี:
● มีราคาที่ไม่สูงมากสะดวกสบายในการซื้อขาย ใช้งานได้นาน
● สามารถเลือกขนาดของด้ามตามความถนัดของมือผู้ใช้งานได้

ข้อเสีย:
● ตัวตรายางต้องใช้ควบคู่กับตลับหมึก ซึ่งจะต้องใช้ควบคู่กันซึ่งบางครั้งอาจจะไม่สะดวกต่อการพกพา

2. ตรายางตลับพลิก

เป็นตรายางกึ่งสำเร็จรูปโดยจะมีด้ามที่มีขนาดตายตัว มีตลับหมึกอยู่ในตัว สะดวกต่อการใช้งานและการพกพา เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องพกเดินทางไปใช้งานข้างนอก เมื่อหมึกหมดสามารถซื้อตลับหมึกมาเปลี่ยนก็สามารถใช้งานได้ปกติ

ข้อดี:
● ใช้งานสะดวกสบาย เพราะไม่ต้องใช้งานกับตลับหมึกแยก สามารถปั๊มได้เลยทันที สะดวกต่อการพกพา
ข้อเสีย:
● ราคาค่อนข้างสูงกว่าตรายางแบบธรรมดา ที่ต้องแลกกับความสะดวกสบายในการใช้งาน

3. ตรายางแบบหมึกในตัว

เป็นตรายางที่มีหมึกอยู่ในตัว โดยมีแผ่นโฟมสำหรับซับหมึก โดยสามารถปั๊มได้หลายครั้ง เมื่อหมึกหมดสามารถเติมหมึกเข้าไปใหม่ได้
ข้อดีของตรายางประเภทนี้คือราคาที่อยู่ระดับกลางๆ แต่การใช้งานสะดวกสบายเทียบเท่าตรายางตลับพลิก พกพาสะดวกเช่นกัน
ตรายางสามารถนำไปใช้ได้งานได้หลากหลายและยังจำเป็นต่องานบางประเภทเช่น การจดทะเบียนบริษัท เพราการจดทะเบียนบริษัทนั้นมีความซับซ้อน ในการจดทะเบียนบริษัท ไม่จำเป็นต้องมีตราประทับหรือหรือจะมีตราประทับก็ได้ แต่เราจะมาพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการมีตราประทับกัน

ข้อดี:
● ตราประทับจะช่วยให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือและเป็นสากล
● ตราประทับใช้เป็นการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมต่างๆ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง

ข้อเสีย:
● การมีตราประทับทำให้ขาดความคล่องตัว เพราะเราจะต้องพกตรายางติดตัวไปด้วยเวลาจะต้องทำธุรกรรม
● ตราประทับจะสึกหรอตามการใช้งาน
● มีความยุ่งยาก ในกรณีที่จะต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล จะต้องดำเนินการจดทะเบียนใหม่

การออกแบบตรายางที่ดีนั้นต้องดูที่ขนาดที่เหมาะสม ความคมชัดของรายละเอียดต่างๆ ความสวยงามของตรายางเวลาปั๊มออกมา การออกแบบตรายางแต่ละชิ้นจะยากง่ายขึ้นอยู่กับความต้องการต้องเจ้าของตรายาง