โลโก้คืออะไร?
โลโก้คือเครื่องหมายหรือตราสัญลักษณ์ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนและเป็นภาพลักษณ์ขององค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ เพื่อให้ผู้คนจดจำ ให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึก ความเชื่อมั่น เกิดความเข้าใจในตัวสินค้าและยอมรับในตัวสินค้า และที่สำคัญคือความต้องการที่จะสร้างให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกประทับใจ เพื่อต้องการให้ผู้บริโภคแสดงพฤติกรรมตอบสนองการจูงใจของเอกลักษณ์ขององค์กร ต้องการให้ผู้บริโภคเกิดทัศนคติที่ดี มีความนิยมชมชอบต่อผู้ผลิต
ความสำคัญของโลโก้
ทำไมการทำธุรกิจจำเป็นต้องมีชื่อแบรนด์สินค้าหรือต้องมีโลโก้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็เพราะโลโก้ถือได้ว่าเป็นเครื่องหมายที่จะทำให้ผู้คนที่พบเห็นได้รู้จักและจดจำธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ได้เป็นอันดับแรกๆ การออกแบบโลโก้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก อีกทั้งโลโก้ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือที่ดีต่อธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ในการออกแบบโลโก้ เราจะคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและความเหมาะสมที่จะเป็นไปได้ด้วย เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เจ้าของโลโก้พึงพอใจมากที่สุด จะต้องมีการพูดคุยกันถึงรูปแบบคอนเซ็ปต์ที่ลูกค้าต้องการ การให้ข้อมูลบริษัท หรือผลิตภัณฑ์ให้ทางนักออกแบบ การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง เพื่อให้นักออกแบบไว้เป็นข้อมูลในการออกแบบโลโก้
ประเภทของโลโก้
1. โลโก้แบบสัญลักษณ์
เป็นการออกแบบโลโก้โดยการใช้เครื่องหมาย รูปภาพ ไอคอน ในการสื่อสารที่ไม่ใช้ตัวอักษร
2. โลโก้แบบภาษาภาพ
เป็นการออกแบบโลโก้ที่ไม่ใช้ตัวอักษรประกอบ แต่ใช้ภาพบอกแทนโลโก้ประเภทนี้จะเป็นภาพสมมุติที่เกิดจากการเอารูปทรงเราขาคณิตต่างๆ มาออกแบบให้ เกิดเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่แปลกตาหรือเป็นรูปทรงนามธรรมแทนที่จะเป็นรูปสัตว์หรือผลไม้
3. โลโก้แบบเครื่องหมายตัวอักษร
เป็นการออกแบบโลโก้ที่ในรูปตัวอักษรที่เกิดจากการย่อเอาตัวอักษรออกมาจากคำเต็ม หรือชื่อเต็มขององค์กร บริษัท สถาบันต่างๆ ออกมาใช้เป็นโลโก้แสดงแทนชื่อหรือคำเต็มขององค์กร
4. โลโก้ชื่อ
เป็นการเอาชื่อเต็มมาทำเป็นโลโก้แทนที่จะเป็นชื่อย่อ เนื่องจากชื่อธุรกิจเป็นคำที่แปลกใหม่มีเอกลักษณ์ในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นคำที่ไม่มีความหมายก็ได้ แต่เมื่อผู้คนฟังหรืออ่านก็สามารถจดจำหรือติดปากได้ทันที และเนื่องจากโลโก้ประเภทนี้เน้นหนักไปที่ตัวอักษร จึงยังคงต้องการการออกแบบตัวอักษรที่เป็นเอกลักษณ์ หรือเลือกใช้ตัวอักษรที่เหมาะสมกับธุรกิจนั่นเอง
5. โลโก้มาสคอต
มักจะออกแบบโลโก้ให้เป็นรูปคนหรือตัวการ์ตูนที่สื่อถึงผู้ก่อตั้งบริษัทหรือตัวแทนของแบรนด์ที่เป็นตัวเป็นตน
6. โลโก้แบบผสม
เป็นการรวมกันระหว่างตัวอักษรและรูปภาพในโลโก้เดียวกัน ผู้คนสามารถจดจำทั้งภาพและชื่อแบรนด์ได้ในเวลาเดียวกัน
ลักษณะของโลโก้ที่ดี
1. ต้องแตกต่าง
ควรออกแบบโลโก้ให้มีเอกลักษณ์ มีความแตกต่าง เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนกับแบรนด์อื่นๆ
2. ต้องจำง่าย
ชื่อต้องไม่ไม่ซับซ้อน หรือมีการสะกดยาก หรืออกเสียงยาก หรือต้องเป็นภาพที่จดจำง่าย
3. ต้องอยู่ได้นาน
การออกแบบโลโก้ที่ต้องทำให้โลโก้นั้นสามารถอยู่ในตลาดได้นาน ไม่ตกยุคสมัย
4. ไม่ต้องสอดคล้องกับธุรกิจ
การออกแบบโลโก้นั้นไม่จำเป็นจะต้องสื่อสารได้ว่าธุรกิจนั้นทำเกี่ยวกับอะไรเสมอไป หรือไม่จำเป็นต้องสื่อว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นอะไร
หลักการออกแบบโลโก้ที่ดี
1. มีความโดดเด่นและง่ายต่อการจดจำ
โลโก้ที่โดดเด่นนั้นจะบ่งบอกถึงธุรกิจ หรือผลิตภัณฑ์ของลูกค้า เมื่อคนเห็นก็จะนึกถึงได้เลยว่าเป็นธุรกิจของลูกค้า
2. เลือกฟอนต์ให้เหมาะสม
ในการออกแบบโลโก้นั้นรูปแบบของฟอนต์ในโลโก้ก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการเลือกฟอนต์ที่เหมาะนั้นจะช่วยส่งเสริมให้โลโก้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
3. ไม่ควรใช้คำมากเกินไป
ควรใส่ตัวหนังสือให้พอเหมาะ เพราะจะทำให้โลโก้ดูอึดอัด ไม่น่าสนใจเท่าที่ควร อีกทั้งยังดูเข้าใจยาก รวมถึงควรเว้นระยะคำต่างๆ ด้วย เพื่อทำให้คนอ่านเข้าใจได้ง่าย
4. เลือกสีสันให้เหมาะสม
ควรเลือกสีสันของโลโก้ให้เหมาะสม เพราะแต่ละสีนั้นจะมีความหมายของแต่ละสีและมีความรู้สึกแตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังทำให้โลโก้ดูสวยโดดเด่นขึ้นได้อีกด้วย
การออกแบบโลโก้ของทางเราจะไม่ได้ได้ออกแบบเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่โลโก้นั้นต้องสื่อความหมายได้ด้วย โลโก้เป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะได้เห็นและจดจำได้ และโลโก้ก็จะอยู่กับธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์นั้นไปอีกนาน จึงต้องออกแบบโลโก้ให้คนทั่วไปเห็นแล้วจดจำได้ง่าย ลูกค้าที่ใช้บริการกับทางเราไม่ต้องกังวลเลยว่าทางเราจะไปลอกเลียนแบบโลโก้ของที่อื่นเพราะการทำแบบนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและจะลดความน่าเชื่อถือของธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ของทางเราและของลูกค้าเช่นกัน